ระยะเวลากว่า 12 ปี ของบริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) ที่ได้ก้าวเข้าสู่พลังงานสะอาด ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงและผันผวนทั่วโลก เศรษฐกิจโลกที่เผชิญกับความท้าทาย ราคาพลังงานที่พุ่งตัวสูงขึ้น และปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เรายืนหยัด เชื่อมั่นในวัฒนธรรมองค์กร “GROWTH” ที่จะมุ่งมั่นทุ่มเทพัฒนาธุรกิจให้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทำให้ในปี 2565 ที่ผ่านมา ถือเป็นปีที่สำคัญอย่างยิ่งที่บริษัทได้มุ่งมั่นและทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อเป็น ผู้นำด้านธุรกิจพลังงานทดแทน อุปกรณ์และระบบไฟฟ้าครบวงจร ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัย ทำให้บริษัทสร้างผลกำไรในปี 2565 กว่า 3,010.51 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 35.05% จากรายได้ในส่วนของอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น Gas Switch, Surge Arrester เป็นต้น อีกทั้งบริษัทยังรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้าร่วมกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ เช่น SCB10X ออริจิ้น เจมาร์ท ซิงเกอร์ พฤกษา กัลฟ์ และอื่น ๆ แล้วกว่า 510.64 ล้านบาท ซึ่งเป็นการสร้างการเติบโตให้แก่ระบบนิเวศของธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน ผ่านการจับมือและเติบโตไปและผสานจุดแข็งร่วมกัน เพื่อสร้างความยั่งยืนทางพลังงาน และพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ให้ทุกท่านได้เป็นผู้กำหนดและมีทางเลือกด้านพลังงาน สามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากพลังงานสะอาดได้อย่างครอบคลุมมากขึ้นในอนาคต
บริษัทยังมุ่งมั่นที่จะมีส่วนร่วมในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางด้านพลังงานของไทยให้แข็งแกร่งและเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านการลงทุนพัฒนาผลิตภัณฑ์อุปกรณ์ระบบไฟฟ้าให้ตอบสนองและครอบคลุมความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้กว้างขึ้น พร้อมทั้งพัฒนาธุรกิจและนวัตกรรมทางด้านพลังงานให้ตอบรับกับนโยบายและคำมั่นสัญญาของไทยในการประชุม Conference of the Parties ครั้งที่ 26 หรือ COP26 ที่ไทยจะเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ใน ปี 2050 (พ.ศ. 2593) รวมถึงบริษัทได้เข้าร่วมประมูลโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และโรงไฟฟ้าพลังงานลม ตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (Power Development Plan : PDP) ที่ได้มีการประกาศรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนรวมประมาณ 5,200 เมกะวัตต์ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัทในการเพิ่มกำลังการผลิตเติบโตสู่ 1,000 เมกะวัตต์ภายในปี 2566 โดยในปีนี้บริษัทยังได้มีการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่มีอยู่ของบริษัทขยายการลงทุนไปสู่กลุ่มธุรกิจกัญชงและกัญชาครบวงจร ตั้งแต่ช่อดอกจนถึงสารสกัด CBD เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์
จากปัจจัยต่าง ๆ ที่กล่าวมา ทำให้ในปี 2566 เป็นปีที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือและให้ความสำคัญในการสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเป็นกลางทางคาร์บอน ซึ่งภาคพลังงานมีส่วนถึง 70% ด้วยเหตุนี้จึงเป็นโอกาสและก้าวสำคัญของ “GUNKUL” ที่จะขึ้นมาเป็นผู้นำและเติบโตไปพร้อมกับแนวโน้มที่กำลังจะมาถึงในปี 2566 ทั้งในส่วนของภาครัฐและภาคเอกชน ผ่าน 1. ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน 2. ธุรกิจพลังงานและเทคโนโลยี 3. ธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้า 4. ธุรกิจงานรับเหมาก่อสร้างและวางระบบทางด้านวิศวกรรม (EPC) ที่จะตอบสนองกับนโยบายแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า รวมถึงการขยายตัวของโครงสร้างพื้นฐานของประเทศอื่น ๆ อาทิเช่น โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง แผนพัฒนาระบบไฟฟ้า ระบบสื่อสาร และการขยายตัวภาคอุตสาหกรรมเอกชน เป็นต้น ซึ่งบริษัทถือเป็นโอกาสสำคัญที่จะได้เติบโตและก้าวหน้าอย่างยั่งยืนต่อไปในอีก 3-5 ปี ข้างหน้า
ตลอดปี 2565 ที่ผ่านมา ในนามของคณะกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งและขอขอบคุณท่านผู้ถือหุ้น สถาบันการเงิน พันธมิตรทางธุรกิจ ลูกค้า คู่ค้า หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจชุมชน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกท่านที่มอบความไว้วางใจและความร่วมมือในการผลักดันธุรกิจของบริษัทให้เดินหน้าและเติบโตอย่างมั่นคง เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายต่อไป บริษัทจะยึดมั่นดำเนินธุรกิจด้วยหลักธรรมาภิบาล หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี เป็นองค์กรที่มีความโปร่งใส และตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมเช่นนี้ตลอดไป
ดร.สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร